

Description of สโมสรผู้ฟัง วันเสา
1. เตือนรับมือภัยหนาว! ตรุษจีนปีนี้อาจหนาวกว่าทุกปี ลมหนาวกำลังแรงทำทั่วไต้หวันหนาวจัด 4 วันติดต่อกัน ภาคเหนืออาจต่ำกว่า 5°c
ใกล้ถึงวันตรุษจีนแล้ว ปีนี้อากาศอาจหนาวกว่าทุกปีที่ผ่านมา มีการพยากรณ์ว่า ตั้งแต่คืนก่อนวันส่งท้ายปีเก่า หรือวันจันทร์ที่ 27 มกราคมเป็นต้นไป ลมหนาวลูกที่มีกำลังแรงสุดในหน้าหนาวปีนี้พัดมาเยือน ทำให้อุณหภูมิทั่วไต้หวันลดลงอย่างรวดเร็ว ช่วงตรุษจีน พื้นที่ราบโล่งในภาคกลางและภาคเหนืออาจต่ำกว่า 5°c
ตรุษจีนปีนี้ อากาศจะหนาวจัดทำลายสถิติในรอบหลายปี (ภาพจาก LTN)
รองศาสตราจารย์อู๋เต๋อหรง (吳德榮) แห่งคณะวิทยาศาสตร์บรรยากาศ มหาวิทยาลัยแห่งชาติจงยัง (NCU) อดีต ผอ. กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวันกล่าวเตือนว่า มวลอากาศเย็นกำลังแรงพร้อมความชื้นสูงระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมเกาะไต้หวันตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคมนี้ ส่งผลให้วันจันทร์ที่ 27 ซึ่งเป็นวันก่อนวันส่งท้ายปีเก่าตามปฏิทินจีน หรือที่เรียกกันว่า เสี่ยวเหนียนเยี่ย (小年夜) อุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว ยิ่งค่ำยิ่งหนาว ภาคเหนือลดเหลือต่ำกว่า 10°c วันอังคารที่ 28 เป็นวันส่งท้ายปีเก่า หรือคืนก่อนตรุษจีน ภาษาจีนเรียกว่า ฉูซี (除夕) พื้นที่ราบโล่งทางภาคเหนืออาจลดลงต่ำกว่า 5°c พื้นที่อื่น ๆ อากาศหนาวจัด แต่ยังดีเป็นความหนาวแบบแห้งไม่ชื้นแฉะ สภาพการณ์อากาศเช่นนี้ จะดำเนินไปจนถึงวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของปีใหม่ตรุษจีน ดังนั้น ปีนี้ จึงน่าจะเป็นตรุษจีนที่หนาวที่สุดในรอบหลายปี ต้องเตรียมการรับมือความหนาวเย็นแต่เนิ่น ๆ
ตรุษจีนปีนี้ พื้นที่ราบโล่งภาคกลาง-เหนือ อุณหภูมิอาจต่ำกว่า 5°c (ภาพจาก udn.com)
2. อวยพรให้ท่านจงมีความสุข หน้าที่การงานราบรื่นลื่นไหลเหมือนงูเลื้อยตลอดปีมะเส็ง
ปีนักษัตรไทยตรงกับของจีน ปีนี้เป็นปีมะเส็งหรือปีงูเล็ก พูดถึงเรืองู ไม่ว่าจะคนไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่หรือคนไทย รวมทั้งในภูมิภาคเอเชีย จะรู้จักงูและพิษสงอันร้ายกาจของมันมาแต่โบราณ ในบรรดาสัตว์มีพิษที่รู้จักกันทั่วไป งูนับได้ว่าเป็นสัตว์ที่มีพิษรุนแรงและอันตรายที่สุด มากกว่าแมงมุม ตะขาบ แมงป่อง ฯลฯ ด้วยอานุภาพของน้ำพิษจากปลายเขี้ยวและขนาดที่ใหญ่กว่าสัตว์มีพิษชนิดอื่น และด้วยพิษร้ายที่สามารถฆ่าคนหรือศัตรูให้ถึงแก่ความตายได้อย่างรวดเร็ว ทำให้งูในสายตาของผู้คน เป็นสัตว์ที่มีฤทธิ์อำนาจอยู่ในตัวมัน
ตามตลาดขายของกินของใช้ช่วงตรุษจีนเต็มไปด้วยผู้คน (ภาพจาก chinatimes.com)
แม้จะเป็นสัตว์พิษสงร้ายกาจและทำให้ผู้คนเกรงกลัว อีกทั้งสำนวนสุภาษิตเกี่ยวกับงู ไม่ว่าจะของไทยหรือจีน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเป็นสิริมงคลเท่าไหร่ อย่างของไทย หมองูตายเพราะงู หมายถึงแม้จะเชี่ยวชาญก็อาจพลาดพลั้งได้ ขว้างงูไม่พ้นคอ หมายถึงปัดเรื่องร้ายออกไปไม่พ้นตัว หรือทำอะไรแล้วผลร้ายย้อนกลับมาสู่ตนเองได้ ความรู้งู ๆ ปลา ๆ รู้นิดเดียว รู้ไม่จริง ฯลฯ อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงปีงู ก็ต้องอวยพรในสิ่งที่เป็นมงคล ในไต้หวันจะนิยมเรียกเป็นปีงูทอง และนำเอาคำว่า เสอ หรืองู แทนที่คำที่มีเสียงคล้ายคลึงกัน อย่าง สำนวนที่นิยมนำมาเป็นคำอวยพร 時來運轉 แปลว่า เมื่อโอกาสมาถึง โชคชะตาจะเปลี่ยนเป็นดีขึ้น เป็น 蛇來運轉 เมื่องูมาถึง ดวงชะตาของเราจะเปลี่ยนเป็นดีตาม หรืออย่าง 好事成雙 ห่าว ซื่อเฉิงซวง ที่แปลว่า ความโชคดีมักมาเป็นคู่ ในปีนี้ จะนิยมพูดว่า 好蛇成雙 ห่าวเสอเฉิงซวง งูมงคลนำโชคสองชั้น อะไรทำนองนี้ อีกคำที่คนรุ่นใหม่ในไต้หวันนิยมนำมาเรียกคนที่ประสบความล้มเหลว ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ คือหลู่เสอ 魯蛇 ซึ่งเป็นคำทับเสียงภาษาอังกฤษ Loser แต่ปีนี้ จะพลิกมาเป็นคำอวยพร หลู่เสอฟานเซิน 魯蛇 (Loser) 翻身 มีความหมายคนที่ไม่เอาไหน ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ปีงูนี้ จะพลิกกลับมาเป็นทำอะไรก็ดูดีไปหมด ฯลฯ
หยุดยาวช่วงตรุษจีนเริ่ม ทางด่วนสายต่าง ๆ เริ่มแน่นไปด้วยรถยนต์ (ภาพจาก CNA)
ก็ขออวยพรให้ทุกท่าน ในปีงูทองนี้ จงมีสุขภาพแข็งแรง หน้าที่การงานและทุกสิ่งทุกอย่าง ราบรื่นลื่นไหลเหมือนงูเลื้อยตลอดปีมะเส็ง
3. รู้หรือยัง? ประเพณีตรุษจีนในไต้หวัน วันตรุษจีนห้ามทำงาน ตรุษจีนต้องกินๆ เที่ยวๆ
ช่วงนี้เป็นช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีน (วันตรุษจีนตรงกับวันที่ 29 มกราคม 2568) ปีนี้หยุด 9 วัน เพิ่มจากปกติ 1 วัน ซึ่งต้องทำงานชดเชยในวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ โดยวันตรุษจีนหรือวันปีใหม่ของชนชาติจีน ในภาษาจีนเรียกว่า ชุนเจี๋ย (春節) แปลว่า "เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ" เพราะหลังตรุษจีนไปแล้วจะถือว่าเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ถือเป็น เป็นวันแห่งการเฉลิมฉลอง ตามธรรมเนียมในวันนี้ผู้คนจะไม่ทำงานกันเลย แม้แต่งานบ้านก็ไม่หยิบจับ เพราะเชื่อว่าจะเป็นลางไม่ดีทำให้ต้องทำงานเหนื่อยยากตลอดปี ธรรมเนียมและประเพณีตรุษจีนในไต้หวันคล้ายคลึงกับในหลายประเทศที่คนส่วนใหญ่เป็นชนชาติจีน ไม่ว่าจะเป็นจีน ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ หรือแม้แต่ในชุมชนชาวจีนบางประเทศที่ยังคงสืบทอดประเพณีดั้งเดิมของบรรพบุรุษอาทิ เวียดนาม มาเลเซีย และไทย
เทศกาลตรุษจีนปีนี้ไต้หวันมีวันหยุดยาวถึง 9 วัน ผู้คนแห่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ สนามบินเนืองแน่นไปด้วยผู้คน (ภาพจาก UDN)
เทศกาลตรุษจีนของชาวไต้หวันจะเริ่มตั้งแต่วันส่งท้ายปีเก่าหรือวันฉูซี่ (除夕) หรือที่ชาวไทยเชื้อสายจีนเรียกกันว่า วันไหว้ ในวันนี้จะมีการทำพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษและเทพเจ้า สมาชิกในครอบครัวจะกลับบ้านมาร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว อาหารมื้อค่ำในคืนวันส่งท้ายปีเก่า (年夜飯) ก็จะเป็นอาหารสิริมงคลหรือมีความหมายที่เป็นมงคลทั้งสิ้น ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ปลา ภาษาจีนคือ 魚 (ออกเสียงว่า yú หรือㄩˊ ) เสียงไปพ้องกับคำว่า 餘 ซึ่งแปลว่า เหลือ หรือมากเกิน เมนูปลาในมื้อค่ำของวันส่งท้ายปีเก่า จึงเป็นการถือเคล็ดว่า ให้มีเงินทองเหลือกินเหลือใช้ และเมนูปลาจานนี้ส่วนใหญ่ไม่รับประทานแต่จะตั้งไว้บนโต๊ะอาหารจนถึงวันตรุษจีน นอกจากนี้ก็ยังมีสาหร่ายหรือ ฝ่าไช่ (髮菜) มีความหมายว่า ร่ำรวย นอกจากนี้ยังมีถั่วงอก เพราะรูปร่างของถั่วงอกเหมือนกับคทาหรูอี้ (如意 ) หรือคทารูปทรงแป้นๆ งอๆ คล้ายกับรูปลักษณ์ตรงส่วนหัวของเห็ดหลินจือที่เชื่อว่า มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ คทานี้เป็นเครื่องยศชั้นสูงสำหรับขุนนางและพระจีนชั้นผู้ใหญ่ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรม คทาหรูอี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสมปรารถนา มีทั้งที่ทำด้วยงาช้าง หยก หิน ไม้ไผ่หรือโลหะมีค่าเช่น ทองคำ เป็นต้น และก็ยังมีเมนูอาหารที่ใส่ผักกาดเขียวหรือภาษาจีนเรียกว่าฉางเหนียนไช่ (長年菜) หมายถึง ผักอายุที่ยืนยาว เป็นต้น
อาหารมงคลในคืนวันส่งท้ายปีเก่าที่สมาชิกในครอบครัวทุกคนต้องกลับมารับประทานร่วมกันที่ขาดไม่ได้คือปลา (ภาพจาก i-news)
หลังทานอาหารมื้อค่ำแล้วก็จะเป็นช่วงเวลาที่เด็ก ๆ รอคอย นั่นก็คือการส่งมอบอั่งเปากัน โดยตามธรรมเนียม ลูก ๆ ที่เติบโตมีงานทำหรือแต่งงานแล้วจะต้องให้อั่งเปาแก่พ่อแม่ ส่วนเด็ก ๆ หรือผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็จะได้รับอั่งเปาจากพ่อแม่ ปู่ย่าตายายหรือลุงป้าน้าอา โดยทั่วไปอาหารมื้อค่ำจะใช้เวลารับประทานกันยาวนานเป็นพิเศษ ทานอาหารไปพูดคุยสนทนาถามสารทุกข์สุกดิบกันไปและตามธรรมเนียมจะต้องรอจนเที่ยงคืนแล้วจะมีการจุดประทัดส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กัน จากนั้นจึงแยกย้ายกันไปนอน ซึ่งธรรมเนียมการอยู่รอให้ผ่านช่วงเที่ยงคืนของวันส่งท้ายปีเก่าจึงเข้านอนนี้ เรียกกันว่าการเฝ้าปี (守歲) วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันตรุษจีน ตามธรรมเนียมตื่นเช้ามาก็จะกล่าวทักทายกันด้วยคำว่ากงสี่กงสี่ (恭喜恭喜) แปลว่า ขอแสดงความยินดีด้วย ในวันตรุษจีนจะมีธรรมเนียมไปเยี่ยมญาติมิตรและไปเซ่นไหว้ที่ศาลเจ้า ซึ่งเรียกกันว่าโจ่วชุน (走春)
วันตรุษจีนคนไต้หวันนิยมไปเซ่นไหว้ขอพรที่วัดหรือศาลเจ้ากัน ในภาพเป็นวัดหลงซานซื่อ (ภาพจาก CTWANT)
ด้วยความเชื่อที่ว่าวันตรุษจีนเป็นวันสิริมงคล ผู้คนนิยมไปเซ่นไหว้ขอพรหรือจุดตะเกียงน้ำมันเพื่อสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงให้โชคดีและราบรื่นปลอดภัยตลอดปี ทำให้ศาลเจ้าทั่วไปเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่เซ่นไหว้ขอพร โดยเฉพาะศาลเจ้าดังๆจะมีผู้คนเบียดเสียดยัดเยียดกันจนต้องมีการจัดระเบียบ จัดเจ้าหน้าที่มาคอยรักษาความปลอดภัยกันอย่างเอิกเกริกเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม หลายปีมานี้ศาลเจ้าดัง ๆ หลายแห่ง อย่างศาลเจ้าเจิ้นหลานกง (鎮瀾宮) เปิดตัวเว็บไซต์ทางการ (bobibobi.tw) และมีฟังก์ชันให้เซ่นไหว้ขอพรทางออนไลน์ได้ตั้งแต่ปี 2564 ไม่ต้องมาเบียดเสียดเซ่นไหว้กันในสถานที่จริง จากข้อมูลระบุว่า แม้การเซ่นไหว้ขอพรทางออนไลน์จะเริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก อย่างไรก็ตามสถานการณ์พลิกผันในช่วงที่เกิดการระบาดของโรคโควิด -19 เนื่องจากกลัวติดเชื้อไม่กล้ายังสถานที่ที่มีผู้คนแออัด ประชาชนจึงหันมาใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้นรวมถึงการเซ่นไหว้ขอพรและจุดตะเกียงน้ำมันสะเดาะเคราะห์ ข้อมูลระบุว่า ผู้ที่นิยมใช้วิธีเซ่นไหว้ขอพรผ่านทางออนไลน์นั้นร้อยละกว่า 60 เป็นผู้ที่อายุระหว่าง 30-55 ปี และร้อยละ 20 เป็นผู้ที่อายุ 20-30 ปี แสดงให้เห็นว่า หนุ่มสาวไต้หวันร่วมกิจกรรมทางศาสนาด้วยวิธีการที่ต่างจากคนรุ่นก่อน ข้อมูลยังระบุว่า ผู้ที่วิธีเซ่นไหว้ทางออนไลน์ อัตราส่วนระหว่างเพศหญิงและเพศชาย อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน แต่ที่ต่างกันคือเพศหญิงนิยมจุดตะเกียงสะเดาะเคราะห์ (平安燈) ขอให้ชีวิตราบรื่นผาสุก เพศชายนิยมจุดตะเกียงเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ยหรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ (財神燈) ขอให้มีโชคลาภและตะเกียงรุ่งโรจน์ (光明燈) ขอให้หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้าและอนาคตรุ่งเรือง
ศาลเจ้าเจิ้นหลานกง นครไทจง ศาลเจ้าแม่มาจู่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เปิดให้เซ่นไหว้ขอพรและจุดตะเกียงเสริมดวงทางออนไลน์ (bobibobi.tw)
นอกจากนี้ เนื่องจากในปัจจุบันคนไต้หวันไม่ค่อยนิยมมีบุตรแต่นิยมเลี้ยงสัตว์หน้าขนอย่างสุนัขหรือแมวเป็นบุตรแทน ทำให้มีศาลเจ้าแห่งหนึ่งที่ตำบลโต่วหลิ่ว เมืองหยุนหลิน ทางภาคใต้ของไต้หวัน มองเห็นความต้องการของคนกลุ่มนี้ เปิดให้จุดตะเกียงสะเดาะเคราะห์สำหรับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อว่า อู่ลู่ไฉเสินเหมียว (五路財神廟) ซึ่งเป็นศาลเจ้าเพียงแห่งเดียวในไต้หวันที่เปิดให้จุดตะเกียงขอพรสะเดาะเคราะห์ให้แก่สัตว์เลี้ยงตัวโปรด
ศาลเจ้าที่เมืองหยุนหลินเปิดให้จุดตะเกียงขอพรและสะเดาะเคราะห์ให้แก่สัตว์เลี้ยงตัวโปรดเป็นแห่งแรกในไต้หวัน (ภาพจากศาลเจ้าอู่ลู่ไฉเสิน)